ลักษณะสำคัญและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ลักษณะสำคัญและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

   

ลักษณะสำคัญ

1.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การทำงานรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ

     จากการที่หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน ได้นำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการประกอบการบริหารจัดการ ทำให้การบริหารจัดการ การตัดสินใจ การตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล มีความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งยังลดความซ้ำซ้อน และลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดียิ่ง เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้น มีความเร็ว เนื่องจากคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ถึงร้อยล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที มีความเชื่อถือได้ เพราะคอมพิวเตอร์จะทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่มีข้อผิดพลาด และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีความถูกต้องแม่นยำ เนื่องจากวงจรในคอมพิวเตอร์จะให้ผลการคำนวณที่ถูกต้องเสมอ เก็บข้อมูลจำนวนมากๆ ได้ เพราะว่าไมโครคอมพิวเตอร์จะมีที่เก็บข้อมูลสำรองที่มีความจุมากกว่าหนึ่งพันล้านตัวอักษร และระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งล้านๆ ตัวอักษร สามารถย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถส่งข้อมูลในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่คนละซีกโลกได้ในเวลาเพียงไม่ถึงนาที ทำให้มีการเรียกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกในปัจจุบันว่า ทางด่วนสารสนเทศ

2.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การบริการสะดวกกว้างขวางขึ้น

เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้านสามารถสอบถามข้อมูล ผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
   -ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการกระจายข้อมูลอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
   -เครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศได้ทั่วโลก โดยผ่านระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ปัจจุบันเราสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันได้เกือบทุกแห่งบนโลกโดยผ่านทางสายและระบบสื่อสารดาวเทียม-ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการกระจายข้อมูลอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง-เครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศได้ทั่วโลก โดยผ่านระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ปัจจุบันเราสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันได้เกือบทุกแห่งบนโลกโดยผ่านทางสายและระบบสื่อสารดาวเทียม


3.เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ


   เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในองค์การ ประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง ราคาถูกลง มีการพัฒนาซอฟต์แวร์สนับสนุนอย่างมากมายทำให้หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถจัดหาคอมพิวเตอร์มาใช้ในหน่วยงานของตนเองได้ และเมื่อระบบอินเทอร์เน็ตถูกพัฒนาให้มีความเร็วสูงขึ้น การแลกเปลี่ยนข้อมูลสามารถทำได้สะดวก หน่วยงานต่างๆจึงนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในหน่วยงานของตน



4.เทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้นว่า เมาส์ แป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ จะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพื่อความสะดวกในการทำงานและการใช้งาน มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วให้สูงขึ้น จะเป็นในรูปแบบของไร้สายและเป็นเครือข่ายมากขึ้น

5.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

     การนำเอาความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้จะช่่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลง เป็นต้นว่า การซื้อสินค้าต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเรียนการสอนอ่านอินเทอร์เน็ต การถ่ายรูปโดยใช้โทรศัพท์ การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดิน ทั้งยังสะดวก รวดเร็ว อีกด้วย


ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ


     สิ่งใดที่มีคุณอนันต์ มักจะมีโทษอย่างมหันต์ตามมา เทคโนโลยีสารสนเทศก็เช่นเดียวกัน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อประชากรทั้งโลก ไม่เฉพาะประชากรไทยเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้น อาจจะเรียกได้ว่า เป็นดาบสองคม หากใช้ไปในทางที่ดีก็จะเกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม แต่หากใช้ไปในทางที่ผิด ก็จะทำให้ตนเองและสังคมเดือดร้อน ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบ่งได้เป็น 2 ด้านใหญ่ ๆ ดังนี้
1.ด้านบวก
      เมื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้แล้วเกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ยกตัวอย่าง เช่น

1.1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
         เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำให้ชีวิตของมนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ การติดต่อกันสะดวก การคมนาคมขนส่งที่รวดเร็ว




1.2. การสร้างความเสมอภาคในสังคมและกระจายโอกาส

   เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทำหน้าที่กระจายข่าวสารต่าง ๆ ที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก แม้แต่การให้โอกาสทางด้านการศึกษา การจัดการเรียนการสอนทางไกล และนอกจากนั้น ยังส่งเสริมการด้านการตรวจรักษาโรคผ่านเครือข่ายการสื่อสารทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

1.3. การจัดการเรียนการสอน ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัย
       ในสถานศึกษา ครู อาจารย์ มีการนำเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มาสร้างเป็นสื่อทางการศึกษา ประกอบการเรียนการสอน เช่น วิดีโอต่าง ๆ  อีบุคส์ อีเลิร์นนิ่ง และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

1.4. การรักษาสิ่งแวดล้อม
        เนื่องจากนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้งานในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะงานในสำนักงาน จะสามารถลดการใช้กระดาษลงได้มาก และเป็นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

1.5. การรักษาความปลอดภัย
       ปัจจุบันนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้งานในด้านการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต เป็นต้นว่า การสร้างรหัสเข้าใช้งานบริการต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือบนโทรศัพท์มือถือ

1.6.การผลิตในอุตสาหกรรมและการพาณิชยกรรม

1.7. การสร้างสรรค์ผลงานและพัฒนาความคิด
       เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยิ่งนับวันยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้เยาวชนจึงต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้มีความสามารถนำความรู้ไปพัฒนาสิ่งต่าง ๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

1.8. การส่งเสริมประชาธิปไตย
       ในการเลือกตั้งระดับต่าง ๆ มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อกระจ่ายข่าวสารและให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของระบบประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งก็มีการใช้คอมพิวเตอร์รวมผลคะแนน ใช้สื่อโทรทัศน์ วิทยุ และอินเทอร์เน็ตรายงานผลการนับคะแนนที่ทำให้ทราบผลได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

2.ด้านลบ

   เมื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้แล้วเกิดโทษต่อตนเองและส่วนรวม ยกตัวอย่าง เช่น

   2.1. ทำให้เกิดอาชญากรรม       
          ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาจจะทำให้ก่อเกิดอาชญากรรม เช่น การล่อลวงจากทางโทรศัพท์ เฟสบุค หรืออุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ


    2.2. ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลลดลง


    2.3. ทำให้เกิดความวิตกกังวล


    2.4. ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยในการดำเนินงาน
          การดำเนินงานในปัจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็เป็นได้ เช่น นั่งทำงานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ อาจจะทำให้สายตาเสีย ปวดหลัง ปวดนิ้วมือหรือนิ้วมือล๊อก เป็นต้น
     2.5. ทำให้เกิดการพัฒนาอาวุธไปใช้ในทางที่ผิด       
          ภูมิภาคหรือประเทศที่นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาช่วยในการพัฒนาอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสงครามและมีการสูญเสียมากขึ้น

ความคิดเห็น